อยากเปรียบเทียบประกันสุขภาพให้ลูก ต้องเน้นแบบไหนดี
เพราะลูก คือดวงใจของพ่อแม่ เลยไม่น่าแปลกใจที่พ่อแม่หลายๆ คนเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กๆ เสมอ แต่ในบางครั้ง เรื่องของความเจ็บปวดนอกจากจะสร้างความปวดใจให้กับผู้ปกครองแล้ว ยังทำให้พ่อแม่หลายคนต้องเสียเงินจำนวนมาก เพื่อแลกกับการรักษาที่ดีที่สุด เพราะเด็กๆ ยิ่งได้รับการรักษาที่ล่าช้า นั่นอาจจะหมายถึงชีวิตเลยก็ได้ ซึ่งในจุดนี้เองที่ทำให้หลายๆ บ้านเลือกให้การ เปรียบเทียบประกันสุขภาพสำหรับเด็ก ๆเป็นหนึ่งในการวางแผนของครอบครัว ก่อนที่จะมีลูก และหากอยากรู้ว่า พ่อแม่มืออาชีพ เลือกประกันให้ลูกอย่างไร มาดูกันเลยดีกว่า
เน้นเปรียบเทียบประกันสุขภาพ ที่ดูแลลูกของคุณตั้งแต่แรกเกิด
โดยปกติเปรียบเทียบประกันสุขภาพ สำหรับเด็ก พ่อแม่ส่วนใหญ่ มักจะเลือกแบบประกันที่ครอบคลุมการคุ้มครองตั้งแต่ขวบปีแรก ซึ่งนั่นถือว่าเป็นแนวคิดที่ถูก เพราะช่วงปีแรกของเด็กๆ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด และเด็กในช่วงอายุ 1-5 ขวบ มักจะมีโรคมากกว่า ช่วงวัยอื่นด้วยเหมือนกัน ประกันสุขภาพสำหรับเด็กจะช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
Image may be NSFW.
Clik here to view.
มองหาประกันที่อัพเดทโรคร้ายแรงของเด็ก
อย่าลืมว่าในปัจจุบัน การเจ็บป่วยร้ายแรงในเด็กๆ นั้น มักจะมีชื่อโรคใหม่ๆ เกิดมาเสมอ และก่อนที่จะตัดสินใจ เปรียบเทียบประกันสุขภาพให้กับลูก ควรดูเงื่อนไขของประกันเหล่านั้นให้ดีด้วยว่ากรมธรรม์สำหรับเด็กๆ นั้นครอบคลุมถึงโรคร้ายจำพวก โรคมือเท้าปาก โรคหัด ไข้เลือดออก และโรคที่มีแนวโน้มเกิดกับเด็กอย่างครบถ้วนหรือไม่
อย่าลืมเรื่องของโรงพยาบาลที่รองรับ
หลายคนชอบเลือกเปรียบเทียบประกันสุขภาพ โดยมองหาเงื่อนไขที่ดีที่สุด แต่คุณอาจจะลืมนึกไปว่า เงื่อนไขดีๆ เหล่านั้น จะไม่มีประโยชน์เลย หากโรงพยาบาลที่คุณสามารถติดต่อได้ ไม่สามารถใช้งานประกันนั้นได้ ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกประกัน ควรดูเรื่องของโรงพยาบาลคู่สัญญาให้แน่ชัดก่อนเสมอ เพื่อที่คุณจะได้ไมเสียใจในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจ้าตัวเล็กของคุณเกิดอาการป่วยขึ้นมากะทันหัน การรีรอ หรือหาโรงพยาบาลที่รองรับประกันสุขภาพ อาจจะล่าช้าเกินไป และทุกๆ ความล่าช้ามักจะทำให้อาการของเด็กๆ ทรุดลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับพ่อแม่ที่กำลังสนใจเปรียบเทียบประกันสุขภาพสำหรับเด็ก เรามองว่า คุณไม่ควรที่จะปล่อยให้ล่าช้า เพราะสุขภาพของเด็กๆ นั้น เป็นเรื่องที่รอไม่ได้ ที่สำคัญ คือ การมีประกันสุขภาพสำหรับลูกเอาไว้ในมือ จะช่วยลดความกังวลเวลาที่ลูกป่วยได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากอย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า จะไม่ต้องวิ่งหาเงินมากมาย ในขณะที่ลูกกำลังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล และถึงแม้ว่าประกันสำหรับเด็กบางกรมธรรม์ อาจจะไม่ได้รองรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่อย่างน้อย ก็ดีกว่าที่จะต้องจ่ายเองทั้งหมดเป็นเงินก้อนใหญ่
